กรณีเครื่องตัด PDC ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการหัวกัด PDC เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เหมืองแร่ และการก่อสร้าง หัวกัด PDC หรือหัวกัดเพชรโพลีคริสตัลไลน์คอมแพ็ค ถูกใช้สำหรับการเจาะและตัดวัสดุแข็ง อย่างไรก็ตาม มีรายงานหลายกรณีที่หัวกัด PDC เสียหายก่อนเวลาอันควร ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์และก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่า คุณภาพของหัวกัด PDC แตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและวัสดุที่ใช้ บางบริษัทเลือกใช้เพชรคุณภาพต่ำหรือวัสดุยึดติดคุณภาพต่ำ ส่งผลให้หัวกัด PDC มีโอกาสเกิดการเสียหายได้ง่าย ในบางกรณี กระบวนการผลิตอาจมีข้อบกพร่อง ส่งผลให้หัวกัดมีข้อบกพร่อง

กรณีหนึ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับความล้มเหลวของหัวกัด PDC เกิดขึ้นในกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ผู้ประกอบการเพิ่งเปลี่ยนมาใช้หัวกัด PDC รายใหม่ ซึ่งเสนอราคาต่ำกว่าหัวกัดเดิม อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้งานไปไม่กี่สัปดาห์ หัวกัด PDC หลายหัวก็เกิดความล้มเหลว ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่ออุปกรณ์ขุดเจาะและเป็นอันตรายต่อคนงาน จากการสอบสวนพบว่าหัวกัดใหม่ใช้เพชรและวัสดุยึดติดคุณภาพต่ำกว่าหัวกัดเดิม ทำให้หัวกัดเสียหายก่อนกำหนด

ในอีกกรณีหนึ่ง บริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในยุโรปรายงานถึงความล้มเหลวของหัวกัด PDC หลายกรณีขณะเจาะผ่านหินแข็ง หัวกัดเหล่านี้แตกหรือสึกหรอเร็วกว่าที่คาดไว้มาก ทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อยและทำให้โครงการล่าช้า ผลการตรวจสอบพบว่าหัวกัด PDC ที่บริษัทใช้ไม่เหมาะกับประเภทของหินที่จะเจาะและมีคุณภาพไม่ดี

กรณีศึกษาเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้หัวกัด PDC คุณภาพสูงจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง การลดค่าใช้จ่ายด้านราคาอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์และความล่าช้าในโครงการ รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นกับคนงาน บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบในการคัดเลือกซัพพลายเออร์หัวกัด PDC และลงทุนในหัวกัดคุณภาพสูงที่เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะด้านการเจาะหรือการตัด

เนื่องจากความต้องการเครื่องตัด PDC ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยมากกว่ามาตรการลดต้นทุน การทำเช่นนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคนงานจะได้รับการคุ้มครอง อุปกรณ์มีความน่าเชื่อถือ และโครงการต่างๆ จะเสร็จสมบูรณ์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล


เวลาโพสต์: 4 มี.ค. 2566